การบูรณาการทุนวัฒนธรรมและเทคโนโลยี
สรุปความจากสัมภาษณ์ วรรณชัย วงษ์ตะลา เทศกาลปล่อยโคม ยี่เป็ง โดย เชียงใหม่ ซีเอดี
การนำทุนวัฒนธรรมที่มีมาใช้ร่วมกับเทคโนโลยีล้ำยุคเป็นแนวทางที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าหรือบริการ ส่งเสริมการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การสร้างภาพลักษณ์ที่โดดเด่นให้กับประเทศ เมื่อเทคโนโลยีที่อาจไม่ใช่ทรัพยากรดั้งเดิมมาประกอบกับทุนวัฒนธรรมโดยกำเนิด ไม่เพียงแต่จะเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน แต่ยังเป็นการประกาศให้โลกรู้ว่าประเทศนี้มีวัฒนธรรมที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
วรรณชัย วงษ์ตะลา ปัจจุบันดำรงตำแหน่งอาจารย์พิเศษที่สาขาสื่อศิลปะและการออกแบบสื่อ มากว่า 15 ปี แม้การสอนจะเป็นส่วนหนึ่งของอาชีพของเขา แต่เขามีความสนใจในการพัฒนาโปรแกรมมิ่งและงานดีไซน์ที่เกี่ยวกับ IT และเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยในช่วงหลัง ๆ เขาได้ขยายขอบเขตงานไปสู่ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อใช้ความรู้และเทคโนโลยีในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในสังคม
แนวคิด C.A.D. เปรียบเสมือนตัวแทนชาติที่นำวัฒนธรรมมาเป็นจุดเด่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ โดยเชื่อว่าประเทศไทยมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย แม้ว่าบางครั้งอาจเกิดความขัดแย้งระหว่างแนวคิดอนุรักษ์กับการปรับเปลี่ยนตามยุคสมัย แต่ในความเป็นจริง วัฒนธรรมเองก็ต้องเคลื่อนไหวและพัฒนาต่อไปอย่างต่อเนื่อง
หนึ่งในจุดเด่นของ C.A.D. คือการนำวัฒนธรรมล้านนามาประยุกต์ใช้ในแวดวงการท่องเที่ยว โดยการนำเสนอความหลากหลายทั้งในแง่ของประเพณีและชนเผ่าต่าง ๆ จึงสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและชาวต่างชาติให้มาสัมผัสประสบการณ์ที่แท้จริง ผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ เช่น สายการบิน โรงแรม และชุมชนท้องถิ่น ที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจและพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืน
แนวคิดในการผสานเทคโนโลยีเข้ากับประเพณีแสดงให้เห็นถึงนวัตกรรมที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงานวัฒนธรรมได้อย่างสร้างสรรค์ ยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เขาได้พบโคมลอยในคืนเดือนพฤศจิกายนในปีหนึ่ง ซึ่งงดงามจนตระการตา จากนั้นเขาจึงมีแนวคิดว่า หากเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ระบบ e-ticket ผู้ที่อยู่ไกลแสนจะสามารถซื้อบัตรเข้าชมงานผ่านออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องพึ่งพาตั๋วกระดาษ ระบบนี้ได้รับการทดลองและขยายผลไปยังเอเจนต์ต่าง ๆ ทั้งในยุโรปและจีน จนสามารถบริหารจัดการผู้เข้าร่วมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเรียลไทม์
การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาช่วยให้ผู้คนทั่วโลกเข้าถึงงานวัฒนธรรมของประเทศได้อย่างไร้พรมแดน โดยส่วนใหญ่ผู้เข้าร่วมงานเป็นชาวต่างชาติถึง 90-95% ทำให้กระบวนการลงทะเบียนและตรวจสอบสิทธิ์เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ นอกจากนี้ C.A.D. ยังเน้นการทำงานในบรรยากาศที่เป็นกันเองเหมือนครอบครัว เปิดโอกาสให้สมาชิกในทีมได้แสดงความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่ แม้ว่ารูปแบบการบริหารแบบเปิดเสรีนี้อาจถูกมองว่าเป็นจุดอ่อนในบางมุมมองของธุรกิจสากล แต่เชื่อว่าเป็นแนวทางที่ช่วยดึงศักยภาพและความคิดใหม่ ๆ มาใช้ได้ดีกว่าการควบคุมอย่างเคร่งครัด
การสืบสานและความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อม
แม้จะมีความสำเร็จในหลายด้าน การสืบสานวัฒนธรรมให้คนรุ่นใหม่เข้าใจและรักษามรดกทางวัฒนธรรมไว้กลับยังคงเป็นความท้าทายที่ต้องให้ความสำคัญ การจัดตั้งมูลนิธิและสมาคมเพื่อสนับสนุนการรักษาวัฒนธรรมให้อยู่ในวงกว้างมากขึ้น นอกจากนี้ ในส่วนของงานโคมลอยที่ใช้กระดาษ ซึ่งอาจสร้างปัญหาสิ่งแวดล้อม พวกเขามีแผนการแก้ไขในระยะสั้น กลาง และยาว ทั้งการจัดสรรพื้นที่ปล่อยโคมที่ห่างจากตัวเมือง การจัดการเก็บรวบรวมโคมลอย และการวิจัยโคมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
ทุนวัฒนธรรมยังคงเป็นจุดแข็งสำคัญของประเทศ โดยเฉพาะในแง่ของการสร้าง “soft power” ให้กับชาติ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและวิธีการสื่อสาร แต่ความสำคัญของการอนุรักษ์และสืบสานวัฒนธรรมที่มีคุณค่ายังคงต้องได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดงานเทศกาลหรือการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถประยุกต์เข้ากับโลกยุคใหม่ได้ สิ่งที่สำคัญคือการที่ประเทศสามารถรักษา “สิ่งที่มีคุณค่าของชาติ” ไว้และส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังอย่างยั่งยืน